วิธีการดูแลรักษาเสื้อวินเทจ

เพราะอะไรทำไมเราถึงต้องดูแลรักษาเสื้อวินเทจให้ดีและต้องรู้จักกับการดูแลรักษา คำตอบง่ายๆ ที่สุดก็เพาะเสื้อวินเทจคือเสื้อเก่าที่มีอายุอย่างน้อย 20 ปี เพราะเฉพาะนั้นการที่เราจะดูแลรักษาเสื้อประเภทนี้ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานจะต้องมีเทคนิคเฉพาะเพื่อไม่ให้ผ้าที่ใส่เกิดความเสียหาย

เราต้องรู้ก่อนว่าผ้านั้นก็มีอายุ ถ้าเกิดเราไม่ดูแลหรือปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ อาจเกิดปัญหาตามมา เช่นผ้าตาย เกิดเชื้อราต่างๆ หรือแม้แต่ไม้แขวนเสื้อ  วันนี้ JJbrothershop ก็จะมาให้ความรู้รายละเอียดกัน

ความเสียหายจากผ้า

1. ผ้าตาย คือ การที่ผ้าที่เราได้มานั่นเปลี่ยนคุณสมบัติจากความนุ่ม เหนียว เด้ง ต่างๆ กลายเป็นความแข็ง ไม่เด้งจะเริ่มฝืด ซึ่งเราจะสัมผัสได้ สาเหตุอาจเกิดได้จากการที่ผ้าไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน เนื้อผ้าใยต่างๆ อาจไม่มีความชุ่มชื่นของน้ำหรือความชื่น หรือ เคมีที่มากับผ้าอาจทำให้ผ้าที่ไม่ได้ใช้งานนานๆ อาจทำให้ผ้าเกิดการแข็งตัวและหยาบ ทำให้ผ้าเกิดการฉีดขาดได้ง่าย
2. ความชื่น คือ พื้นที่หรือบริเวณที่มีความชื่นมากเกินไปอาจทำให้ผ้าเกิดเชื้อราขึ้นได้ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาเคยสร้างห้องเก็บผ้าไว้ใกล้บ่อน้ำ พอเวลาผ่านไปนานๆ เสื้อที่เราไม่ได้ใส่จะเกิดความชื่นและเกิดเชื้อราขึ้น หรือใครที่มีน้ำรั่วน้ำหยดใส่เสื้อผ้าก็จะเกิดเชื้อราบนเสื้อผ้าได้เช่นกัน
3. ไม้แขวนเสื้อ มีโอกาสเกิดความเสียหายได้ 2 กรณี คือ 1. ใครที่ชอบเอาไม้แขวนเสื้อแขวนเสื้อไว้เป็นเวลานานๆ แล้วก็ไม่ค่อยได้ใส่ก็สามารถเกิดรอยช่วงบริเวณไหล่ของเสื้อได้เพราะไม่แขวนบางยี่ห้อ มีรอยนูน หรือ ไม้แขวนบางยี่ห้อก็มีความยาวไม่ถึงสุชายของไหล่ 2. เวลาซักผ้าเสร็จแล้วผ้าที่มีน้ำหนักก็จะทิ้งตัวลงทำให้ รอยนูน หรือ ช่วงความยาวที่ไม้แขวนไปไม่ถึงจะเกิดรอยในบริเวณนั้นได้
4. แดด การตากผ้าที่ต้องเจอกับแดดบ่อยๆ อาจเกิดการ fade ของสีผ้าได้ เพราะแดดในโซนบ้านเราค่อยข้างที่จะแรง รังสีต่างๆ ที่มากับแดดจะส่งผลต่อเม็ดสีของผ้าได้
5. การซักผ้า ความเสียหายที่เกิดจากการซักผ้าก็เป็นอีก 1 เรื่องที่เราไม่ควรมองข้ามโดยเฉพาะการเอาผ้าไปปั่นในเครื่อง จะทำให้คอเสื้อและเสื้อที่มีตำหนิทั้งหลายอาจจะเกิดแผลที่ใหญ่ขึ้นได้

วิธีการดูแลรักษาเสื้อวินเทจ

1. เสื้อควรมีการผ่านน้ำ มาก่อนเพื่อปกกันปัญหาที่อาจเกิดจากผ้าตาย คำว่าผ่านน้ำนี้ก็คือการเอาเสื้อนั่นไปแช่ในน้ำเป็นการถนอมเสื้ออย่างนึง แต่ละคนเองก็จะมีเทคนิคขึ้นตอนที่แตกต่างกันออกไป อย่างบางท่านก็เอาเสื้อไปแช่น้ำ 1 น้ำ (1 ชม.) แล้วตามด้วยน้ำยาปรับผ้านุ่มอีก 1 น้ำ (1 ชม.) อันนี้ก็แล้วแต่เทคนนิคนะครับ แต่การผ่านน้ำมาก่อนนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผ้า เพื่อการถนอม
2. ควรเก็บเสื้อไว้ในไว้ในห้องที่มีอุณภูมิเหมาะสม เราให้การคาดการณ์ง่ายๆ คือ ไม่ควรอยู่ใกล้แหล่งน้ำ ในห้องไม่ควรมีรูรั่ว ระบายอากาศได้ดี
3. การเก็บผ้าควรเก็บไว้ด้วยการพับ วิธีนี้แนะนำมากกว่าการแขวนนะครับ หากต้องการเก็บเสื้อยืดเพราะเราอาจจะไม่ค่อยได้เอาไปใส่ นานๆ อาจเป็นรอยได้ การพับใส่ตู้ หรือ พับไว้ในห้องหากจะวางไว้ในห้องแนะนำให้มีที่วางที่ห่างจากพื้นเพราะพื้นพวกปูนจะมีความชื้นค่อนข้างมาก
4. การตากผ้า ถ้าให้ดีเราควรตากผ้าแบบกลับด้านตากเพราะผ้าสีทั้งหลายโดยเฉพาะเสื้อวินเทจจะเป็นเป็นผ้าดำ จะมีผลต่อ fade ของผ้าได้หากเจอแดดแรงๆ การรักษาสภาพของผ้าในแต่ละขั้นตอนจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
5. ใช้ผ้ากาว เป็นอีกวิธีสำหรับคนที่ได้เสื้อที่มีตำหนิมานะครับ การแปะผ้ากาวสำหรับรูมดทั้งหลาย เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม เพราะจะทำให้รูไม่ขนาดมากขึ้น แต่หากรูที่ใหญ่จนเกินไปอาจต้องใช้วิธีการชุน
6. การซักผ้า แนะนำให้ซักมือจะดีกว่าเพราะเราจะเห็นจุดต่างๆ ที่มีตำหนิและการใช้น้ำหนักมือที่จะไม่ทำให้เสื้อเสียหาย แต่หากใครอยากจะใส่เครื่องจริงๆ ก็แนะนำให้ใส่ในถึงซักผ้าเพื่อการถนอมคอเสื้อและกันการดึงรั้งกันภายในเครื่อง

สรุป

เกล็ดความรู้ที่ได้เอามาฝากกันเรื่องการถนอมผ้ามาทั้งหมดนี้ ก็อยากให้เพื่อนๆที่กำลังศึกษาการรักษาและถนอมผ้า ได้นำไปประยุกต์ใช้ในแบบของเราเพราะจริงๆ แล้วเทคนิคแต่ละท่านๆ ก็มีแตกต่างกันไป

สามารถติดตามอ่านข่าวสารดีๆ จากทาง JJbrothershop ได้ทาง Blog หรือ ทางแฟนเพจ